ทำความรู้จัก “จูจีฮุน” จาก ”เจ้าชายเย็นชา“ ผู้เป็นรักแรกของสาวๆ สู่ “คุณหมอปากแจ๋ว” ย้อนเส้นทางชีวิตที่ต้องสะดุด ก่อนกลับมารันวงการได้อย่างสง่างาม

ถ้าพูดถึงพระเอกแถวหน้าของวงการซีรีส์เกาหลี เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ จูจีฮุน อยู่ในลิสต์ของใครหลายคนอย่างแน่นอน ด้วยผลงานการแสดงที่มาพร้อมกับบทบาทหลากหลาย ส่งให้ จูจีฮุน กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่คนดูเชื่อใจได้เสมอ

โดยเฉพาะล่าสุด พระเอกหนุ่มชาวเกาหลีใต้คนนี้ กำลังได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามกับบทบาท แพคคังฮยอก หัวหน้าทีมแพทย์ฉุกเฉิน จาก “The Trauma Code : Heroes on Call ชั่วโมงโกงความตาย” ซีรีส์เกาหลีแนวการแพทย์จาก Netflix ที่ออกมารวดเดียว 8 ตอน พร้อมกับสร้างสถิติความนิยมสูงสุดอันดับ 1 ในประเทศไทยและอีกกว่า 10 ประเทศทั่วโลก

ผลจากความสำเร็จนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องอวยยศให้ จูจีฮุน ผู้ที่ถ่ายทอดตัวละคร หมอแพคคังฮยอก ออกมาได้ถึงอกถึงใจไปยันตับไตไส้พุงของคนดู ด้วยคาแร็กเตอร์แบบเป้าหมายมีไว้พุ่งชน ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหน แถมสกิลความปากแซ่บปากแจ๋วขั้นเทพที่ไม่แพ้ฝีมือการผ่าตัดเลยทีเดียว

เอาจริงๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ จูจีฮุน ได้รับคำชื่นชมในเรื่องของการสวมบทบาทเข้าไปเป็นตัวละคร แทบทุกเรื่องเขาทำให้คนดูอินได้เสมอ ไม่ว่าจะในบทบาทของเจ้าชาย “องค์รัชทายาทลีชิน” จาก Princess Hours หรือ เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา ซีรีส์เรื่องแรกที่แจ้งเกิดให้ จูจีฮุน ดังเป็นพลุแตกไปทั่วเอเชีย ขึ้นแท่นพระเอกรักแรกของสาวๆ เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน แถมการันตีด้วยรางวัล Best New Actor จากเวที MBC Drama Awards อีกด้วย

จากความโด่งดังนี้ทำให้ จูจีฮุน มีผลงานซีรีส์ The Lucifer (2007) รวมถึงภาพยนตร์ตามมาอีก 2 เรื่อง Antique (2008) และ The Naked Kitchen (2009) เรียกว่าเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่มาแรงสุดๆ ในขณะนั้น

แต่แล้วเส้นทางที่กำลังรุ่งโรจน์ของนักแสดงหนุ่ม จูจีฮุน มีอันต้องสะดุดและหยุดชะงักลง เนื่องจากเขาถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ในระหว่างการสอบสวนเขายอมรับว่าเคยลองเสพยาจริง ศาลจึงมีคำสั่งตัดสินให้เขารับโทษจำคุก 6 เดือน รอลงอาญา 1 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์อีก 120 ชั่วโมง พร้อมกับจ่ายค่าปรับ

สุดท้ายแม้ว่า จูจีฮุน จะรับโทษตามกฎหมายแล้ว แต่การมีข่าวฉาวเกี่ยวกับยาเสพติด สำหรับอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้แล้วถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสเกินกว่ายืนหยัดในวงการต่อได้ ในช่วงเวลานั้นนักแสดงหนุ่มจึงตัดสินใจเข้ากรมรับใช้ชาติต่อทันที ทำให้เจ้าตัวห่างหายจากวงการไปนานกว่า 3 ปี

อย่างไรก็ดี…ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ จูจีฮุน คัมแบ๊กวงการอีกครั้งกับซีรีส์ Five Fingers (2012) ก่อนแสดงฝีมือเฉียบขาดในภาพยนตร์ I am the King (2012) ถ่ายทอดบทฝาแฝดสามัญชนและพระราชาที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว เรียกว่าพิสูจน์ตัวเองจนค่อยๆ เริ่มเป็นที่ยอมรับ จากนั้นเขากลับมามีผลงานทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องล้วนแล้วแต่ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกทั้งสิ้น

ก่อนจะมาพีกสุดๆ อีกครั้ง ในบทบาท “องค์รัชทายาทอีชาง” จากซีรีส์ยอดฮิตขึ้นหิ้งอย่าง Kingdom (2019) ที่ปลุกกระแสซอมบี้เกาหลีไวรัลไปทั่วโลก จนต้องมีซีซั่น2 ในปี 2020 และ Kingdom: Crown Prince (2021) ตามมา รวมไปถึงผลงานชิ้นเยี่ยมอีกมากมายทั้งจอแก้วและจอเงินที่เปิดโอกาสให้ตัวเขาได้ท้าทายและพัฒนาฝีมือ

ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี จูจีฮุน ทุ่มเททำงานอย่างหนัก ทั้งในฐานะนักแสดงมืออาชีพ รวมถึงการต้องพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับหลังผ่านมรสุมลูกใหญ่ แน่นอนว่าเขาทำมันได้สำเร็จแบบไม่มีข้อกังขา

และจากที่กล่าวไว้ข้างต้น “เขาทำให้คนดูอินและเชื่อใจได้เสมอ” ประโยคนี้ไม่เกินจริง แม้ว่าในเวลานั้นจะมีผลงานออกมาติดๆ กันก็ตาม ข้อนี้ จูจีฮุน พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้ว เพราะนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2024 ลากยาวมาจนถึงต้นปี 2025 นักแสดงหนุ่มมีผลงานซีรีส์ให้ชมต่อเนื่องกันถึง 4 เรื่อง 4 รส 4 บทบาท แบบที่ยากจะหาใครทำได้ในเวลาใกล้เคียงกันเช่นนี้

เริ่มที่ Blood Free ในบทบอดี้การ์ดมาดนิ่ง ต่อด้วยการกลับมาเล่นแนวคอมเมดี้ในรอบ 20 ปีกับเรื่อง Love Your Enemy ในบทประธานมูลนิธิโรงเรียนเก่า ตามมาด้วย Light Shop เจ้าของร้านโคมไฟสุดลึกลับ และล่าสุด The Trauma Code: Heroes on Call คุณหมอปากแจ๋วแห่งศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน

เท่านั้นไม่พอ จูจีฮุน ยังมีงานจ่อต่อเนื่อง เมื่อล่าสุดเขาได้รับทาบทามให้รับบทเป็น โซเวียซู ในซีรีส์รีเมกเว็บตูนเรื่องใหม่ The Remarried Empress แถมยังเป็นการลุ้นกลับมาร่วมงานด้วยกันอีกเป็นครั้งที่ 3 กับนางเอก ชินมินอา ที่เคยเจอกันในซีรีส์  The Lucifer (2007) เมื่อ 18 ปีก่อน และภาพยนตร์ The Naked Kitchen (2009) เมื่อ 16 ปีก่อน ซึ่งในขณะนี้ทั้งหมดกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณารับบท

แม้ว่าเส้นทางในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ของนักแสดงที่ชื่อ จูจีฮุน จะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บาดแผลในอดีตที่อาจจะถูกใครหยิบยกขึ้นมาเพื่อดิสเครดิตได้ทุกเมื่อ แต่การแสดงความรับผิดชอบด้วยการเคารพในอาชีพนักแสดง รวมถึงตอบแทนโอกาสที่ประชาชนมอบให้อีกครั้ง ชายผู้นี้ได้พิสูจน์ด้วยชีวิตที่เหลือนับจากนี้ ผ่านผลงานที่เข้มงวดไปด้วยคุณภาพและความทุ่มเท

…นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วันนี้ จูจีฮุน จะกลับมารันวงการได้อย่างน่าชื่นชมและสง่างาม

Related posts

Leave the first comment