5 เคล็ดลับบอกลาส้นเท้าแตก แห้ง ปล่อยไว้นานอาจรุนแรงขึ้น

ส้นเท้าแตก คือ อาการของโรคผิวหนังรูปแบบหนึ่ง ทำให้บริเวณส้นเท้ามีลักษณะแห้ง แข็งกระด้าง แตกแยกเป็นแผ่นๆ ดูไม่สวยงาม และอาจมีอาการคันระคายเคืองเล็กน้อย ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นอาการข้างต้นที่ไม่รุนแรง แต่หากปล่อยส้นเท้าแตกไว้โดยไม่รักษา ในระยะยาวก็จะทำให้เท้าแตกเป็นร่องลึก เป็นแผล เจ็บ ปวด อาจมีเลือดซึมออกถ้าร่องลึกมาก ซึ่งจะทำให้เสี่ยงติดเชื้อและมีหนองซึมได้

วันนี้เรามี 5 เคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลรักษาปัญหาส้นเท้าแตก เหมือนได้เท้าใหม่ เนียนนุ่มแบบผิวเด็ก

1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ 

เรื่องง่ายๆ ที่หลายคนมองข้าม คือ การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เพราะหากดื่มน้ำน้อย ก็อาจส่งผลกระทบต่อระบบภายในต่างๆ รวมทั้งยังส่งผลให้สภาพผิวแห้ง ดังนั้นการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ จึงเป็นหนึ่งเคล็ดลับง่ายๆ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูส้นเท้าแตกให้กลับมาปกติ 

2.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น หรือ น้ำร้อน

การอาบน้ำน้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อนนานเกินไป จะทำให้ผิวแห้ง ซึ่งหากใครกำลังเผชิญปัญหาผิวแห้ง ส้นเท้าแตก ก็จะยิ่งทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นแห้งตึงยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรอาบน้ำที่มีอุณหภูมิปกติ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวหนัง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่ระคายเคืองผิวและไม่ทำให้ผิวแห้ง 

3.สครับผิว

การสครับผิว หรือการขัดผิว เป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงสิ่งสกปรกที่ฝังลึกใต้เซลล์ผิวหนังให้หมดไป การขัดผิวยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด สำหรับใครที่เผชิญปัญหา ‘ส้นเท้าแตก’ สามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้ 

  • แช่เท้าในน้ำอุ่น 10-15 นาที
  • ใช้หินสำหรับขัดเท้า นำมาขัดถูเบา ๆ บริเวณรอยแตก 
  • เช็ดเท้าให้แห้ง แล้วทาด้วยครีมบำรุงส้นเท้าแตก 

ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแน่นอน

4.ทาครีมบำรุงส้นเท้าโดยเฉพาะ

หมั่นทาครีมบำรุงส้นเท้าแตกสม่ำเสมอ เป็นประจำเช้า-เย็น เพื่อฟื้นบำรุงผิวแห้งแตก เติมความชุ่มชื้นให้ผิว

5.เลือกรองเท้าที่เหมาะสม

ควรเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดีกับเท้า พื้นรองเท้ามีความนุ่มและคุณภาพดี เมื่ออยู่ในบ้านควรเลือกสวมรองเท้าสลิปเปอร์ จะช่วยลดแรงกระแทกบริเวณส้นเท้าได้

และหากใครส้นเท้าแตกจนเป็นแผลลึก ปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาแผลก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแผลมากกว่าเดิม

Related posts

Leave the first comment