เรียกว่ากำลังเป็นข่าวที่แฟนๆ ให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับกรณีที่นักร้องชื่อดัง เป๊ก ผลิตโชค ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้ายได้รับบาดเจ็บคาปั๊มน้ำมันในซอยรามคำแหง 76 เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุเป็นชายวัย 21 ปี อ้างทำไปเพื่อป้องกันตัว ในขณะที่นักร้องหนุ่มรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอย่างหนัก ส่วนใหญ่ถาโถมไปที่ผู้ก่อเหตุเพราะทบไม่มีใครเชื่อว่า เป๊ก ผลิตโชค จะไปมีเรื่องกับใครก่อนได้ กระทั่งต่อมามีภาพจากกล้องวงจรปิดถูกเผยแพร่ ซึ่งภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างสอดคล้องกับคำให้การของผู้ก่อเหตุ ทำให้รถทัวร์เลี้ยวกลับแทบไม่ทัน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรคงต้องให้กระบวนการทางกฎหมายเป็นคนจัดการ

วันนี้เราจะพาไปทำความรู้สึกกับนักร้องที่ชื่อ เป๊ก ผลิตโชค กับเส้นทางชีวิตที่กว่าจะมีวันนี้!!
หากเอ่ยชื่อ “เป๊ก ผลิตโชค” เชื่อว่าแทบไม่มีใครในยุคนี้ไม่รู้จักศิลปินผู้มีเสียงนุ่มละมุนและเสน่ห์ล้นเหลือ ไม่เพียงแต่เสียงร้องที่ตรึงใจผู้ฟังเท่านั้น แต่เขายังเป็นหนึ่งในศิลปินที่เดินทางบนเส้นทางสายดนตรีด้วยความอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคมายาวนาน ก่อนจะกลายมาเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วประเทศในนาม “คุณหลวง”

เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2526 เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงในฐานะนักร้องหน้าใหม่จากเวทีประกวด และได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัด GMM Grammy ในยุคที่ค่ายกำลังมองหาศิลปินเสียงดีหน้าใหม่เข้าสู่วงการ
ในปี 2548 เป๊กมีผลงานเป็นที่รู้จักจากเพลง “ไม่มีใครรู้” ในอัลบั้ม “One Man Story” ชุดที่ 1 จากนั้นจึงมีผลงานอัลบั้มชุดแรกชื่อ “One ผลิตโชค” ออกมาในปีเดียวกันซึ่งก็ประสบความสำเร็จ มีเพลงดังไม่ว่าจะเป็นเพลง หรือแค่ขำๆ, ใจหนึ่งก็รักอีกใจก็เจ็บ และ นิทานหิ่งห้อย จากนั้นก็ได้ร่วมงานอีกครั้งใน One Man Story #2 อัลบั้ม Love Passion มีเพลงดังคือ “ชู้ในใจ”

ต่อมา เป๊ก ออกผลงานเดี่ยวชุดที่ 2 คือ I’m in Love และในปี พ.ศ. 2551 ได้รวมตัวกันตั้งวงทรีโอในนาม “เป๊ก-อ๊อฟ-ไอซ์” กับอัลบั้ม Together มีเพลงดังอย่าง “แค่คนโทรผิด” โดยมีเพลง “ไม่รักอย่าทำให้คิด” เป็นเพลงเดี่ยวของตนเองในอัลบั้ม และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เป๊ก ได้ย้ายจากค่ายแกรมมี่มาอยู่กับค่ายเอ็กแซ็กท์

ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี เป๊ก ยังคงทำงานในวงการเพลงต่อเนื่องทั้งในฐานะนักร้อง นักพากย์ และนักแสดง แม้จะไม่ได้รับความนิยมแบบก้าวกระโดด แต่เขาไม่เคยยอมแพ้ ยังคงฝึกฝน พัฒนาตัวเอง และเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่เสมอ ในขณะที่บางช่วง เป๊ก แทบไม่มีผลงานออกสื่อ หลายคนถึงขั้นเข้าใจว่าเขาหายไปจากวงการแล้ว แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังนั้น เป๊ก ยังคงเดินหน้าทำเพลง และรอวันที่จะได้รับโอกาสอีกครั้ง

กระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต ในปี 2560 เป๊ก ผลิตโชค เข้าร่วมรายการ The Mask Singer Season 1 ในหน้ากาก “จิงโจ้” ที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร ด้วยเสียงร้องที่โดดเด่น นุ่มลึก มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทำให้เขาโด่งดังแบบพลิกชีวิต เมื่อเปิดหน้ากากยิ่งสร้างความตกใจและเสียงฮือฮาก็ตามมา เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า “หน้ากากจิงโจ้” จะเป็นนักร้องหนุ่ม เป๊ก ผลิตโชค

จากจุดนั้นเอง เป๊ก กลายเป็นขวัญใจมหาชนในเวลาอันรวดเร็ว มีฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก พร้อมกับชื่อเรียกใหม่จากแฟนๆ ว่า “คุณหลวง” และ “นุช” ซึ่งเป็นชื่อแฟนคลับของเป๊กนั่นเอง
หลังจบรายการ The Mask Singer เป๊ก ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสำเร็จชั่วคราว เขาใช้โอกาสนี้สานต่อความฝันในวงการเพลงอย่างจริงจัง ออกซิงเกิลใหม่ เช่น โทษที่เอาแต่ใจ, นี่แหละความรัก, ไม่มีใครรู้ (2020 Version) ฯลฯ และยังจัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่บัตรขายหมดในไม่กี่นาที นอกจากนี้เขายังได้รางวัลและการยอมรับในหลายเวที ทั้งด้านเสียงร้อง การแสดง และบุคลิกภาพที่น่ารัก เป็นกันเอง และให้ความสำคัญกับแฟนคลับเสมอ

ถึงแม้ว่าจะมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว แต่ เป๊ก ผลิตโชค ยังคงเป็นคนที่ติดดิน เรียบง่าย และเต็มไปด้วยพลังบวก ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเขาให้ความสำคัญกับ “นุช” แฟนคลับของเขาเป็นอย่างมาก โดยจะมีการสื่อสารกับแฟนๆ ด้วยความจริงใจ ทั้งผ่านโซเชียลมีเดียและกิจกรรมต่างๆ

ความมุ่งมั่นและความอดทนตลอดหลายปีของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนว่า “อย่ายอมแพ้ต่อความฝัน แม้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม” เรียกว่าเส้นทางของนักร้องที่ชื่อ เป๊ก ผลิตโชค ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยบทเรียน ความพยายาม และการอดทนรอคอยโอกาส ด้วยหัวใจที่รักในเสียงเพลงอย่างแท้จริง ทำให้เขาไม่เพียงเป็นศิลปินที่มีผลงานดี แต่ยังเป็น “คนพิเศษ” ในหัวใจของใครหลายคน

กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันล่าสุด ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า…บทเรียนชิ้นใหม่นี้จะมีราคาที่ เป๊ก ผลิตโชค ต้องจ่ายขนาดไหน!!
ขอบคุณภาพ IG : Peckpalit