โตโน่ ภาคิน กับบท “เสือดำ” อินที่สุดในชีวิตการแสดง จากเคยคิดถอนตัว

กระแสแรงไม่มีแผ่ว สำหรับภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์ “เสือ” ที่เข้าฉาย 1 สัปดาห์ ทำรายได้ทะลุ 50 ล้านบาทแล้ว พร้อมเสียงชื่นชมล้นหลามว่า “ต้องเป็น ‘โตโน่’ คนเดียวเท่านั้น” ที่เหมาะกับบท “เสือดำ” หนึ่งในสี่เสือหนุ่มเลือดร้อนแห่งมหากาพย์ “ขุนพันธ์”

การกลับมาครั้งนี้ โตโน่ ทุ่มสุดชีวิตกับบทบาทที่เจ้าตัวบอกว่า “รักที่สุดในชีวิตการเป็นนักแสดง” เพราะอยู่กับคาแร็กเตอร์นี้มาตั้งแต่ปี 2565 เป็นเวลากว่า 3 ปี เพื่อสร้างตัวละครนี้ขึ้นมา โตโน่ เล่าอย่างตรงไปตรงมา “ตอนแรกผมควบคุมเสือดำไม่ได้เลย อินมาก พยายามทำให้ดีขึ้น เพราะไม่อยากให้มันมืดมนเกินไป อย่างที่เห็นใน “ขุนพันธ์ 3” เสือดำยืนอยู่ในจุดที่ดำมืด ตอนนั้นยอมรับว่าต้องไปปรึกษาจิตแพทย์ แต่สุดท้ายบทนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาได้ในช่วงที่มีปัญหา”

ในภาพยนตร์ “เสือ” ผู้ชมจะได้เห็นอีกมิติของ เสือดำ ในช่วงก่อนจะเจอ “ขุนพันธ์” ซึ่งผู้กำกับ “โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ” ให้โจทย์ว่าก่อนจะเป็นเสือดำ เขาเป็นเหมือนแมวจร ผอมโซจะตายวันไหนก็ได้ รอยแผลเต็มตัว และไม่รู้ว่าเคยผ่านอะไรมาบ้าง สภาพถึงได้เหมือนโดนหมารุมกัด แมวด้วยกันรุมฟัด เพราะเป็นตัวเดียวที่เข้ากับใครไม่ได้ โตโน่ เผยว่าการตีความจิตใจของตัวละครช่วงนั้นคือหัวใจสำคัญของภาคนี้

“เสือดำในเวอร์ชั่นนี้ มีเรื่องความเชื่อ จิตวิญญาณ เรื่องของความดีเลวเขาไม่ได้เป็นพระเอกเสือดำ แต่เขาเป็นโจร ผิดก็คือผิด เลวก็คือเลว ไม่มีข้อแก้ตัว หนังของพี่โขมไม่ได้พูดถึงคนดีหรือคนเลว แต่พูดถึงคนในเฉดสีเทา ที่เทาเข้มหรือเทาอ่อนเท่านั้น”

ด้านการเตรียมตัว โตโน่ ยอมรับว่าไม่มีภาคไหนที่เหนื่อยน้อยลง “ภาคนี้ต้องเตรียมร่างกาย เตรียมใจ และเตรียมโลกของเสือให้พร้อม” เขาเผยว่าทำการบ้านหนัก ทั้ง “แช่ว่าน” เพื่อสัมผัสความเชื่อของคนยุคนั้น ไปเยี่ยมบ้าน “พ่อเสือดำ” ดูอาวุธจริง เครื่องราง พระที่ห้อยคอ รวมถึงพูดคุยกับลูกหลานที่ยังอยู่

ในภาคนี้ “เสือดำ” จะได้อาคมใหม่ “หมัดธนู” ทำให้หมัดทรงพลังยิ่งกว่าเดิม พร้อมใส่สนับมือเพิ่มความหนักหน่วง “ถึงในหนังเราจะไม่ต่อยกันจริง ในคิวแอ๊กชั่นมันมีระยะ เทคนิคที่ช่วยเรื่องภาพเน้นให้สวยงาม” เสือดำ ใช้ทางหมัดทางมวย ใช้เท้า เข่า ศอก ท่าทางต้องหนักหน่วงกว่าคนอื่น

นอกจากหมัดหนักแล้ว ฉากขี่ม้ายังท้าทายสุดๆ เพราะต้องขี่ม้าไปแล้วยิงปืนสองมือ โดยใช้ขาควบม้าแทนมือ ต้องกลับไปเรียนรื้อฟื้นใหม่หมด โตโน่ ใช้เวลาไม่นานก็คล่อง บอกสนุกมาก

โตโน่ ยังพูดถึงการกลับมาร่วมงานกับ “พี่โขม” ว่าเต็มไปด้วยพลังและความจริงใจ “ผมเคยขอถอนตัวจากบทนี้ ส่งข้อความไปบอกพี่โขมว่าให้เปลี่ยนเสือดำเถอะ พี่โขมตอบกลับมาว่า ‘ถ้าเปลี่ยนเสือดำ เปลี่ยนกูด้วย’ จากนั้นเราก็กลับมาสู้ไปด้วยกัน เพราะเรารักมันทั้งคู่”

ภาพยนตร์ “เสือ” ไม่ได้เป็นเพียงหนังแอ็กชันยิงกันเท่ๆ แต่ยังเป็นเรื่องราวของ “จิตวิญญาณ ความเชื่อ และความเทาในใจมนุษย์” ที่ โตโน่ บอกว่า มันมีทุกอารมณ์ ทั้งบ้าระห่ำ สนุก และดราม่าหนักหน่วง มันไม่ใช่แค่หนังอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตผม แต่มันคือช่วงชีวิตของผมจริงๆ โตโน่ ภาคิน กล่าวทิ้งท้ายอย่างภูมิใจ

“เสือ” ภาพยนตร์แอ็กชันไทยแห่งปีที่ห้ามพลาด!

Related posts

Leave the first comment