เรียกได้ว่าดังมาทุกยุคทุกสมัยจริงๆ สำหรับ “แม่นกน้อย อุไรพร” ศิลปินหมอลำระดับตำนาน ที่คร่ำหวอดในวงการหมอลำมาเกือบทั้งชีวิต หลังทุ่มเทแรงกายและจิตวิญญาณให้กับวง “เสียงอีสาน” มายาวนานกว่า 50 ปี ในวัย 68 แม่นกน้อย วางใจให้ “น้องแป้ง ณัฐธิดา” หลานสาวบริหารวงเสียงอีสานเต็มตัว ส่วนแม่นกเองยังขึ้นโชว์ร้องลำบนเวทีเหมือนเดิม แต่แบ่งเวลามารับงานแสดงมากขึ้น กล้าออกนอกกรอบที่เคยกลัว เข้าไปสัมผัสโลกอีกใบ

ทำให้แฟนๆ ได้เห็นอีกหนึ่งบทบาทของแม่นกน้อย ด้านการแสดงทางหน้าจอ แต่ก่อนหน้านี้แม่นกน้อย มีประสบการณ์แสดงมาบ้างแล้ว ในโชว์ลำเรื่องต่อกลอน “วงเวียนชีวิต” ที่โด่งด่งในยุคทองของเสียงอิสาน สร้างความประทับใจให้กับแฟนหมอลำเป็นอย่างมาก จนได้รับการยอมรับฝีไม้ลายมือการแสดงเก่งกาจไม่แพ้การร้องลำ ยิ่งตอนนี้แม่นกน้อยมีผลงานแสดงที่หลากหลายทั้งละคร ซีรีส์ และภาพยนตร์ กลายเป็นดาราเต็มตัว ตีบทแตกทุกเรื่อง ไปดูกันว่า แม่นกน้อย อุไรพร มีผลงานแสดงเรื่องไหนบ้าง

ไมค์ม่วนป่วนรัก (2566)
แม่นกน้อย เล่นละครเป็นครั้งแรกบนหน้าจอทีวี แนวฟีลกู๊ดคอมเมดี้เรื่อง “ไมค์ม่วนป่วนรัก” ทางช่องวัน 31 รับบท “ป้าสม” หัวหน้าวงดนตรีศรเสียงสวรรค์ แม่พระเอก (กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ) ถือว่าเป็นบทใกล้ตัว เหมือนได้เล่นเป็นตัวเองเพราะในชีวิตจริง แม่นกน้อย เป็นหัวหน้าวงเสียงอิสานดูแลลูกน้องในวงหลายร้อยชีวิต เล่นเรื่องแรกก็ได้รับคำชมว่าเล่นเป็นธรรมชาติสมบทบาท ทำเอาแม่นกปลื้มใจเพราะยอมรับว่ากดดันมาก เป็นการออกจากเซฟโซนหมอลำมาเล่นละครครั้งแรก แต่แฟนๆ ละครก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี

เทียนซ่อนแสง (2567)
เปลี่ยนมารับแนวดราม่าเข้มข้น ผลงานเรื่องที่ 2 “เทียนซ่อนแสง” ทางช่องวัน 31 แม่นกน้อย รับบท “ย่าศรีนวล” เรื่องนี้ได้โชว์สกิลปะทะฝีปากเชือดเฉือนอารมณ์กับนางร้ายตัวแม่ “อ๋อม สกาวใจ” เป็นคู่ปรับแม่ผัวลูกสะใภ้ที่ไม่มีใครยอมใคร ซึ่งแม่นกน้อยทั้งกลัวเกร็งเครียดที่ต้องเข้าฉากกับ “อ๋อม” เพราะเคยได้ยินชื่อเสียงเรื่องเจ้าแม่ซีนดราม่ามานาน แม่นกก็ทำออกมาได้ดี เล่นเข้าคู่กับอ๋อมได้เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะซีนด่าลูกสะใภ้รัวๆ คนดูสะใจยกให้เป็น MVP แม่นกด่าแซ่บปรบมือให้เลย

เขมจิราต้องรอด (2568)
สร้างความประทับใจให้แฟนๆ เป็นอย่างมาก แม่นกน้อย กับบทบาท “ยายสี” เรื่อง “เขมจิราต้องรอด” ซีรีส์ Boy Love แนวโรแมนติกสยองขวัญที่มีแบ็กกราวด์วัฒนธรรมอีสาน แน่นอนว่าคนที่เหมาะสมกับบทบาทนี้ พูดอีสานได้ แถมยังร้องเพลงบายศรีเรียกขวัญได้ดี คงเป็นใครไม่ได้นอกจากหมอลำชั้นครูอย่าง นกน้อย อุไรพร กับบทยายของพ่อครูภรัณ (เก่ง-หฤษฎ์) ที่ถ่ายทอดความรักความห่วงใยเป็นเหมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของหลานๆ และที่ทำเอาคนดูร้องไห้น้ำตาท่วมจอกับฉากยายสีตกน้ำเสียชีวิตในสระบัว เป็นอีกหนึ่งฉากสะเทือนใจ แม่นกน้อยเล่นได้ดีทำคนดูเสียน้ำตาหนักมาก ซึ่งเรื่องนี้แม่นกน้อย ยังได้โชว์การเอื้อนลูกคอในเพลง ‘ขวัญแก้วมาสู่คิง’ อีกหนึ่งเพลงประกอบซีรีส์ที่ถ่ายทอดพิธีเอิ้นขวัญ(ช้อนขวัญ) ให้กลับมาสู่ตัว น้ำเสียงนุ่มนวลอบอุ่น ตำนานก็คือตำนาน เรื่องนี้ทำให้วัยรุ่นเจน Z ประทับใจเข้ามาทำความรู้จักตัวตนแม่นกน้อย และวงเสียงอีสานมากขึ้น

คายอ้อ (2568)
ให้เกียรติมาเล่นรับเชิญสั้นๆ ในภาพยนตร์ “คายอ้อ ลบหลู่ ศรัทธา อาถรรพ์” ผลงานอำนวยการสร้างโดย “บอสโจ ยมนิล” หัวหน้าวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง ซึ่งรวบรวมบรมครูศิลปินแห่งชาติ นักร้องหมอลำชื่อดังเกือบทั้งวงการ มาร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวความเชื่อ ความศรัทธา ของวงการหมอลำ ซึ่งแม่นกน้อย อุไรพร เปรียบเหมือนศิลปินบรมครู แม่ครูในวงการหมอลำ เป็นที่เคารพศรัทธาของศิลปินรุ่นหลัง ยกเป็นต้นแบบของวงการหมอลำ บอสโจจึงได้เชิญแม่นกน้อยมาเล่นเป็นแม่ครูสอนการร้องลำ ซึ่งเหมาะสมกับคาแร็กเตอร์ของแม่นกน้อย

ตาโขน (2568)
อีกหนึ่งบทบาทแนวสยองขวัญ ภาพยนตร์เรื่อง “ตาโขน” เรื่องราวความเชื่อ และพิธีกรรมตาโขนจากวัฒนธรรมพื้นถิ่น โดย แม่นกน้อย รับบท “ย่าถิน” ย่าของสองพี่น้อง จ่อย และ จั่น ที่ไม่เชื่อว่าลูกชายตายแล้ว หลังจากเหตุการณ์ประหลาด ชาวบ้านเชื่อว่าย่าถินเป็นสะใภ้ต่างถิ่นมาสร้างบ้านทับหอผีหมู่บ้าน จนเกิดเป็นคำสาปที่นอกจากจะทำให้คนในบ้านตายแล้วยังจะทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีแต่ความล่มจม แม่นกน้อย เปิดใจเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ท้าทายมาก เป็นเรื่องลี้ลับที่ชวนเข้าไปสัมผัส และอีกหนึ่งเหตุผลที่รับเล่นคือความเป็นวัฒนธรรมอีสาน แม่นกน้อย บอกภูมิใจได้เป็นส่วนหนึ่งถ่ายทอดเรื่องราวกลิ่นอายวัฒนธรรมอีสาน เตรียมเข้าโรงภาพยนตร์ 20 พฤศจิกายน

เรียกว่าผลงานการแสดงของ แม่นกน้อย อุไรพร ไม่ว่าจะบทบาทไหนก็ตีบทแตกทุกเรื่อง ประทับใจแฟนๆ ทุกเพศทุกวัย ยิ่งในยุคโซเชียลมีแฟนคลับเจนใหม่ที่เริ่มมาทำความรู้จักตัวตนของ แม่นกน้อย อุไรพร จากผลงานการแสดง ทำให้ยิ่งประทับใจศิลปินหมอลำระดับตำนานที่อยู่ในหัวใจแฟนเพลงมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ



