เปิดประวัติ ดอกเหมย เพ็ญนภา หมอลำซิ่งสู้ชีวิต จากเหลือเงินติดบัญชีพันเดียว ไวรัลแม่ทัพพลิกชีวิต

เป็นอีกหนึ่งหมอลำซิ่งสาวสู้ชีวิต สำหรับ “ดอกเหมย เพ็ญนภา” ที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จากกระแสคลิปชุดทหารลายพราง ใส่ส้นสูง หลายคนอาจเพิ่งรู้จักเธอในฉายา “แม่ทัพดอกเหมย” แต่แฟนๆ วงการหมอลำซิ่งรู้จักกันดีว่า ดอกเหมย เพ็ญนภา มีชื่อเสียงมานานแล้วมีผลงานเพลงดังหลายล้านวิว แต่กลับเจอมรสุมชีวิต งานหดหายไปพักใหญ่ ชีวิตดิ่งดาวน์ถึงขั้นเหลือเงินติดบัญชีแค่พันเดียว

กระทั่งคลิป แม่ทัพดอกเหมย กลายเป็นไวรัลพลิกชีวิต ทำให้เธอกลับมามีกระแสอีกครั้ง อีกทั้งยังเจอเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นบุกมาทำร้ายทีมงานดอกเหมยหลังเวที แต่ต้องเจอกับหมัดฮุกซ้ายของสามีดอกเหมย ที่มีดีกรีเป็นถึงนักมวยดังเข็มขัดแชมป์หลายเส้น ผู้ที่อยู่ข้างกายเป็นเหมือนบอดี้การ์ดคอยปกป้องภรรยา จนทำให้วงหมอลำของเธอได้รับฉายาอีกว่า “ซ้ายลำซิ่ง”

เราจะพาไปรู้จักเส้นทางชีวิตสุดพลิกผันของ “ดอกเหมย เพ็ญนภา” หมอลำซิ่งสาวสุดแกร่ง ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา

จุดเริ่มต้นเส้นทางหมอลำ

ดอกเหมย เพ็ญนภา สมสุข มีชื่อจริงว่า เพ็ญนภา จิตงาม ปัจจุบันอายุ 35 ปี เป็นคนจังหวัดขอนแก่น จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 

ดอกเหมย ชอบการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก มีคุณยายเป็นหมอลำกลอน ด้วยพรสวรรค์และรักในศิลปะหมอลำ เธออยู่วงโปงลางเป็นนางไหตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม และยังเป็นนักร้องงานเลี้ยง ได้ค่าตัว 300 บาทต่องาน ความสวย บวกความเก่งมุมานะ “พ่อเอ๊ะ ภักดีหัวหน้าวงระเบียบวาทะศิลป์ เห็นถึงความสามารถจึงทาบทามให้มาอยู่วงหมอลำด้วย ดอกเหมย แสดงอยู่กับคณะระเบียบวาทะศิลป์ได้ 1 ฤดูกาล ก่อนจะลาออกไปช่วยธุรกิจครอบครัวที่ประสบปัญหา และเป็นนักร้องงานเลี้ยงไปด้วย

กระทั่งได้มีโอกาสฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เรียนลำซิ่งกับ “ดร.ราตรี ศรีวิไล” ราชินีหมอลำซิ่ง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี 2565 และอาจารย์  “วัชราภรณ์ สมสุข” ซึ่งดอกเหมยก็ขอใช้นามสกุล “สมสุข” เป็นชื่อในวงการลำซิ่งมาจนถึงวันนี้

ก่อตั้งวงหมอลำซิ่งเป็นของตัวเอง

เรียนร้องลำสั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร “ดอกเหมย” เปิดวงหมอลำซิ่งเล็กๆ เป็นของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีคุณพ่อและคุณแม่คอยช่วยดูแล ซึ่งเป็นหมอลำซิ่งวาไรตี้แปลกใหม่ในภาคอีสาน เพราะต้องการให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจลำซิ่ง เธอจึงนำกลอนลำสมัยก่อนมาผสมผสานกับเพลงสมัยปัจจุบัน เรียกว่าเธอเป็นหนึ่งในศิลปินหมอลำซิ่งรุ่นใหม่ที่กล้าออกแบบการแสดงให้แปลกใหม่ ทันสมัย ชุดที่ใส่แสดงสีสันสดใสได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูน เพื่อดึงดูดความสนใจกลุ่มวัยรุ่น และเพิ่มความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชม ในยุคที่สื่อโซเชียลเริ่มมีบทบาทมากขึ้น 

เพลงสร้างชื่อหลายล้านวิว

ส่วนผลงานเพลงสร้างชื่อเสียงให้ ดอกเหมย เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เธอมีโอกาสทำผลงานเพลงร่วมกับค่าย ศาลาเรคคอร์ด อย่างเพลง ของเล่น ที่มียอดวิวสูงกว่า 50 ล้านวิว และเพลง คาควายยุ, บ่แคร์ก็แคร์เมา, หัวใจขาดเคิ่ง, กาลกิณี และปัจจุบันปล่อยผลงานเพลงใหม่ “ให้ความเคียวนำพา

มรสุมชีวิต งานหด มีเงินติดบัญชีพันเดียว

ดอกเหมย เริ่มขยายวงหมอลำซิ่งให้ใหญ่ขึ้น แต่ก็ต้องเจอกับอุปสรรรค วงหมอลำขาดทุนจนต้องขายที่นาเพื่อมาเลี้ยงลูกน้อง ขณะที่คุณพ่อก็ช่วยทำงานหาเงินเพื่อนำรายได้มาซัพพอร์ตคนในวงด้วย

ดอกเหมย เล่าว่าช่วงเฟื่องฟูของเธอ ในช่วงปี 59-60 มีงานทุกวัน มีเพลงดัง แต่หลังจากนั้นเจอวิกฤตโควิด เพจโดนปิดกั้น ไม่มีงานจ้าง ทำให้หมอลำซิ่งดอกเหมยหายจากโซเชียลไปช่วงหนึ่ง และตอนนั้นมีเงินติดบัญชี แค่ 1000 บาท ไม่กล้าบอกใคร

โดยช่วงที่วงลำซิ่งของ ดอกเหมย เจอกับวิฤต รุ่นน้องในวงการอย่าง “นก พงศกร” หัวหน้าวงหมอลำเสียงวิหค ที่เคยร่วมงานกันมา สนิทสนมรู้ใจกันดี ได้เข้ามาช่วยเหลือให้โอกาส ดอกเหมย จับมือกันสร้างวงหมอลำซิ่งเสียงวิหค เพื่อเป็นทางเลือกช่วยเหลือให้เธอมีงานจ้าง

ไวรัลแม่ทัพ ชุดลายพราง ใส่ส้นสูง ดังข้ามคืน

จุดพลิกผันที่ทำให้กลับมามีกระแสอีกครั้ง เมื่อ “ดอกเหมย” ทำคลิปในชุดลายพราง สวมรองเท้าส้นสูง มาพร้อมกับเพลงนักรบนิรนามสยามเมืองยิ้ม โดยคลิปนี้กลายเป็นไวรัลในติ๊กต็อก เป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ ในช่วงที่ประเทศไทยอยู่ภาวะตึงเครียดสถานการณ์ชายแดน ชาวโซเชียลได้ยิ้มออกอีกครั้ง

จากคลิปไวรัลนั้นทำให้ ดอกเหมย กลับมามีกระแส มีคิวงานจ้างเข้ามามากขึ้น แฟนหมอลำไปให้กำลังล้นหลามหน้าเวที และยังชื่นชมด้วยว่าโชว์ของหมอลำซิ่งดอกเหมย ทำถึงทุกโชว์ ใส่ชุดลายพราง ร้องคัฟเวอร์เพลง “นักรบนิรนาม” ของ  “แมงปอ ชลธิชา” และยังทำผลงานเพลงใหม่ “แม่ทัพรับจบ” เพลงปลุกใจรักชาติให้กำลังใจทหาร สร้างความสนุกฮึกเหิมให้กับแฟนเพลง ทำให้เธอได้รับฉายาว่า “แม่ทัพดอกเหมย”

ร่ำไห้ก้มกราบแฟนเพลง

หลังจากทำโชว์แม่ทัพดอกเหมย ออกมาต่อเนื่อง ถูกใจพี่น้องชาวไทย หมอลำซิ่งสาวเปิดใจทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ ก้มกราบขอบคุณแฟนเพลงกลางเวที จากที่เคยกระแสเงียบไป ถึงขั้นจะไปต่อไม่ได้แล้ว แต่เธอก็มีความมุ่งมั่น ขยันทำคลิปออกมาเรื่อยๆ ในช่วงที่ไม่มีงานอยู่ในจุดที่ดาวน์มาก สามีนักมวยถึงกับบอกจะไปชกมวยที่ต่างประเทศ เพราะเพจเฟซบุ๊กโดนปิด ไม่มีงาน แต่จับมือกันสู้เพื่อเลี้ยงครอบครัวคนข้างหลัง ไม่คิดว่าจะได้มายืนในจุดนี้ที่คนไทยทั้งประเทศให้การต้อนรับ วันนี้ ดอกเหมย กลับมาได้แล้ว พร้อมให้กำลังใจคนที่กำลังท้อ สู้ต่อไป ความสำเร็จอยู่คู่คนขยัน ถ้าไม่ยอมหยุด

กลุ่มวัยรุ่นบุกทำร้ายหลังเวที – หมัดฮุกซ้าย “แสนสะท้าน” สามีแม่ทัพดอกเหมย ดีกรีนักมวยดัง

เหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นบุกหลังเวทีทำร้ายร่างกายทีมงานหมอลำซิ่ง ดอกเหมย เพ็ญนภา ขณะทำการแสดง ที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เกิดเหตุชุลมุน ซึ่งระหว่างนั้น “แสนสะท้าน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” อดีตแชมป์มวยไทย สามีดอกเหมยเข้าไปห้าม แต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เล่นงาน จนต้องใช้แม่ไม้มวยไทยป้องกันตัว ปล่อยหมัดฮุกซ้ายจนฝ่ายตรงข้ามเซล้มไปไม่เป็นท่า ซึ่งก็มีเพื่อนพี่น้องในวงการ และแฟนหมอลำเข้ามาให้กำลังใจ ดอกเหมย และสามี ให้ได้รับความเป็นธรรม และตั้งคำถามถึงมาตรการความปลอดภัยของศิลปิน

จากข่าวดังกล่าวทำให้สังคมสนใจ หนุ่มหมัดฮุกซ้าย สะท้านโซเชียล ที่อยู่ข้างกาย ดอกเหมย ที่แท้คือนักมวยดัง “แสนสะท้าน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” นักมวยไทยจากจังหวัดขอนแก่น เขาเคยเป็นแชมป์รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต ของสนามมวยลุมพินี และเป็นแชมป์โลกมวยไทยสภามวยโลก (WBC) สามีหมอลำซิ่งดอกเหมย เป็นทั้งผู้จัดการส่วนตัว ร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่เคียงข้างเปรียบเหมือนบอดี้การ์ด ดูแลปกป้องตลอด แม้กระทั่งตอนทำคลิปตลกลงโซเชียล สามีก็อยู่ร่วมเฟรมด้วย เป็นสีสันเรียกรอยยิ้มได้เสมอ และคอยดูแลบนเวที

เรียกว่ากราฟชีวิตของหมอลำซิ่ง ดอกเหมย เพ็ญนภา พุ่งขึ้นดิ่งลงสลับกันไป เคยเฟื่องฟู เงียบหาย และกลับมาดังอีกครั้ง แต่สิ่งที่ ดอกเหมย มีไม่เคยเปลี่ยน หัวใจที่สู้ มุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ และไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้ในบางช่วงชีวิตจะเจอกับอุปสรรคขวากหนาม ในเมื่อสวรรค์ให้มอบโอกาสให้เธอได้กลับมาดังอีกครั้ง ดอกเหมย ก็พร้อมมอบความสุข สนุกสนาน ให้กับแฟนหมอลำตลอดไป

Related posts

Leave the first comment