ส่องขั้นตอนการดื่มน้ำถูกวิธี ดีต่อร่างกาย ผิวใส สมองแจ่ม!

“น้ำ” เป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะน้ำคือส่วนประกอบหลักของร่างกาย และมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบต่างๆ ซึ่งในแต่ละวัน ร่างกายสูญเสียน้ำประมาณ 2 ลิตร ผ่านเหงื่อ หรือปัสสาวะ การดื่มน้ำเพื่อชดเชยจึงสำคัญ มาดูว่าดื่มอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดกัน!

ปริมาณที่เหมาะสม

ร่างกายของเราแต่ละคนต้องการปริมาณน้ำไม่เท่ากัน คำนวณปริมาณการดื่มน้ำคร่าวๆ จากน้ำหนักตัว โดยดื่มน้ำ 30-35 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม  หรือใช้น้ำหนัก (กิโลกรัม) x 2.2 x 30/2 = ปริมาณน้ำ(มล.)

ตัวอย่าง น้ำหนัก 55 กิโลกรัม จะได้เป็น 55 x 2.2 x 30/2 = 1,815 มล. หรือ 1.8 ลิตร

*ข้อมูลเพิ่มเติม ใครที่เป็นสายออกกำลังกาย, อยู่ในสภาพอากาศร้อน, มีไข้, ท้องเสีย หรืออาเจียน ควรดื่มน้ำเพิ่ม

เวลาที่ดีในการดื่มน้ำ

หลังตื่นนอน : ดื่ม 1 แก้ว เพราะช่วงนี้เลือดในร่างกายจะมีความข้นหนืดสูง หลังจากขาดน้ำมาทั้งคืน การดื่มน้ำในตอนนี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียน และกระตุ้นการขับถ่าย

ช่วงเช้า : ดื่ม 2-3 แก้ว อาจจะดื่ม 1 แก้วก่อนรับประทานอาหารเช้า (ควรดื่มก่อนทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง) และช่วงสาย 09.00-11.00 น. ดื่มน้ำเพิ่ม 1-2 แก้วเพื่อขับของเสีย

ก่อนมื้อเที่ยง : ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้อเที่ยง30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้สมบูรณ์ หลังจากทานอาหารเสร็จให้จิบน้ำตามเล็กน้อย

ช่วงบ่าย : ดื่ม 2-3 แก้ว

ก่อนมื้อเย็น : 1-2 แก้ว ก่อนทานมื้อเย็นให้ดื่มน้ำก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง  

ช่วงหัวค่ำ : ดื่มน้ำ 1 แก้ว โดยใช้การจิบน้ำไปเรื่อยๆ เพื่อให้ระบบเลือด ระบบลำไส้ทำงานได้ดี

ก่อนนอน : ดื่ม 1-2 แก้วก่อนนอน 1 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก

สัญญาณเตือนการขาดน้ำ

การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันเป็นสิ่งที่ควรฝึกจนเป็นนิสัย หากใครมีอาการเหล่านี้อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็น ปากแห้ง ตาแห้ง, เหนื่อยง่าย, มึนศีรษะ, สมองคิดไม่ออก, ปัสสาวะสีเข้ม หรือน้อยกว่าปกติ หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคไต หรือโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณน้ำที่เหมาะสม

 ที่มา hdmall, princsuvarnabhumi

Related posts

Leave the first comment