อาการ ปวดหัวไมเกรน เป็นโรคที่พบได้มากในคนวัยทำงาน แต่รู้หรือไม่ว่า หากเป็นไมเกรนที่มีออร่าร่วมด้วย เช่น อาการเห็นแสงวาบ ตามัว บางรายมีอาการของสมองขาดเลือด เช่น พูดไม่ชัด แขนขาชา อาจไม่ใช่แค่ไมเกรนแล้ว แต่มีสาเหตุหรือเกิดร่วมกับโรคผนังหัวใจรั่วชนิด Patent Foramen Ovale หรือ PFO ซึ่งต้องรีบทำการรักษาโดยเร็ว ก่อนอาการจะรุนแรงกลายเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้

อาการปวดหัวไมเกรน เกิดจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้าที่ผิวสมอง ทำให้สมองเกิดการกระตุ้นได้ง่ายและไวกว่าคนปกติ หลังสมองถูกกระตุ้นจะเกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งไปตามผิวของสมองอย่างช้าๆ จนเกิดอาการเตือนขึ้นมา ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้น ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดในสมองเปลี่ยนแปลงไป เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิดที่มีผลทำให้หลอดเลือดสมองขยายตัวและทำให้มีอาการปวดหัวไมเกรน
อาการปวดหัวไมเกรนเป็นอย่างไร

- ปวดแบบตุบๆ เป็นจังหวะ
- มักเกิดข้างเดียวของศีรษะ แต่ก็อาจเป็นทั้งสองข้างได้
- อาการปวดในช่วงแรกมักรุนแรงเพียงเล็กน้อย และค่อยๆ เพิ่มความรุนแรงขึ้น
อาการปวดหัวไมเกรน แบ่งออกเป็นหลายชนิด ได้แก่

- ปวดหัวไมเกรนที่ไม่มีออร่า (Migraine without Aura หรือ Common Migraine) ปวดหัวและมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่นมาก
- ปวดหัวไมเกรนมีออร่า (Migraine with Aura หรือ Classic Migraine) นอกจากปวดหัวแล้วยังมีอาการมองเห็นผิดปกติ เห็นแสงระยิบระยับ ภาพเบี้ยว ภาพเบลอ อ่อนแรงหรือชาที่มือ แขน รอบปาก ฯลฯ
- ปวดหัวไมเกรนแบบเรื้อรัง (Chronic Migraine) เป็นการปวดหัวไมเกรนที่เป็นมานานอย่างน้อย 3 เดือน และเป็นอย่างน้อยเดือนละ 15 วัน
ไมเกรนเกี่ยวข้องกับผนังหัวใจรั่วชนิด PFO อย่างไร?
ทารกในครรภ์ทุกคนมีรูเปิดในผนังหัวใจที่กั้นระหว่างหัวใจห้องบนที่เรียกว่า Foramen Ovale เพื่อรับเลือดและออกซิเจนจากหัวใจทารกห้องบนขวาไปยังหัวใจห้องบนซ้าย และส่งไปส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยไม่ต้องผ่านปอด ซึ่งรูเปิดนี้ส่วนใหญ่จะปิดหลังคลอดประมาณ 3 เดือน

หากรูยังเปิดอยู่อาจนำไปสู่ผลแทรกซ้อนหลายอย่าง ทั้งโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนที่มีรูรั่วชนิด Patent Foramen Ovale หรือ PFO ซึ่งเป็นโรคที่เป็นมาแต่กำเนิด ผนังหัวใจห้องบนซ้ายและผนังหัวใจห้องบนขวามีรูรั่วขนาดเล็กและปิดไม่สนิท ที่สำคัญคือไม่แสดงอาการให้รู้ จนกระทั่งลิ่มเลือดบางส่วนไหลย้อนกลับจากหัวใจห้องบนขวาไปที่หัวใจห้องบนซ้ายแล้วเข้าสู่หลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดอาการที่มีความสัมพันธ์กับปวดศีรษะไมเกรนที่มีออร่า เนื่องจากลิ่มเลือดอุดตันจนหลอดเลือดเกิดการขยายตัว กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน
ในผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรนชนิดมีออร่า มีโอกาสเป็นโรคผนังหัวใจรั่วชนิด PFO เพิ่มขึ้น และในผู้ป่วยโรคผนังหัวใจรั่วชนิด PFO พบว่ามีอาการปวดศีรษะไมเกรนออร่ามากกว่าคนปกติเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อาการปวดหัวไมเกรนแบบไหนที่พบร่วมกับโรคผนังหัวใจรั่วชนิด PFO

- ปวดหัวไมเกรนบ่อยครั้ง
- รับประทานยาแล้วไม่ได้ผล
- มีอาการทางสมองร่วมด้วย อาทิ แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัด มุมปากตก
ทั้งนี้ การตรวจวินิจฉัยโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วชนิด PFO มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในผู้ป่วยอายุน้อยที่มีอาการปวดหัวไมเกรนจำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัย เพื่อตรวจหาโรคผนังหัวใจรั่วชนิด PFO

การรักษาโรคผนังหัวใจรั่ว (PFO) ด้วยการปิดรูรั่วผนังหัวใจห้องบนผ่านสายสวน ช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดหัวไมเกรน โดยเฉพาะปวดหัวไมเกรนที่มีออร่าได้ ปัจจุบันสามารถทำการรักษาโดยใช้เทคนิคสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด คือ ใส่อุปกรณ์เพื่อเข้าไปปิดรูรั่วผ่านทางหลอดเลือดทางสายสวนหัวใจบริเวณขาหนีบ วิธีนี้แผลจะมีขนาดเล็ก ลดความเจ็บปวด และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนได้ดี
ที่มา : โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ