หลังจากวง ค็อกเทล (Cocktail) ได้ประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2567 ซึ่งจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่อำลา ในวันที่ 30 มีนาคม 2568 รวมถึงจะมีการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศภายในปี 2025 และ “โอม” นักร้องนำจะไม่แสดงดนตรีเป็นอาชีพอีกต่อไป
วันนี้เราจะพาทุกคนไปย้อนเส้นทางของวง COCKTAIL ตลอดระยะเวลา 22 ปี ตั้งแต่เริ่มต้น จนประกาศยุบวง !
COCKTAIL ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2545 เป็นศิลปินแนวดนตรีคลาสสิก ป็อปร็อก

เริ่มต้นด้วยกลุ่มเด็กผู้ชายที่เล่นดนตรีมาด้วยกันสมัยมัธยมศึกษาตอนปลายจากวง Fi-Fa และ Forte
แรกเริ่มคำ ว่า Cocktail นั้นไม่ใช่ชื่อวง แต่เป็นชื่อ Project และชื่อ Album ที่ เสนอขึ้นโดย บู๊-วิศรุต เตชะวรงค์ หนึ่งในสมาชิกของวงในขณะนั้น (ปัจจุบันเป็นนักร้อง Skykick Ranger) เนื่องจากเป็นชื่อที่มีความหมาย ของการผสมกันของเครื่องดื่ม เปรียบเหมือนกับงานดนตรีของวงที่เป็นการรวมตัวของนักเรียนในโรงเรียนเตรียมอุดม และด้วยอีกเหตุหนึ่งคือ ข้อสอบภาษาอังกฤษที่โรงเรียนออกในช่วงนั้น ออกเกี่ยวกับเรื่องค็อกเทลด้วย

แต่หลังจากนั้น ก็ใช้ชื่อ “ค็อกเทล” ในการแสดงดนตรีเรื่อยมา จากที่เล่นๆ แค่ในโรงเรียนมัธยม ไม่ได้ตั้งใจจะเล่นดนตรีอาชีพ แต่สุดท้ายดนตรีทำให้มาไกลกว่าที่คิด
พ.ศ. 2545-2546 : อัลบั้มแรก ค็อกเทล (Cocktail)
จัดจำหน่ายภายในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเท่านั้น แต่ต่อมาได้มีการวางจำหน่ายในร้านดีเจสยาม และ น้องท่าพระจันทร์ เป็นอัลบั้มที่เริ่มทำให้ วงเป็นที่รู้จักในหมู่นักเรียนมัธยมปลาย โดยเพลงที่เป็นที่รู้จักคือ ซ้ำซ้อน, หลบหน้า และ เศษซากความฝัน ซึ่งเพลง หลบหน้า และ Nobody เป็นเสียงร้องของ บู๊ วิศรุต เตชะวรงค์ ปัจจุบันเป็นนักร้องของวง Skykick Ranger

ปี 2546–2547 : อัลบั้ม 36,000 ไมลส์ อะเวย์ ฟรอม เฮียร์ (36,000 Miles Away from Here)
Cocktail ก็ได้ออก EP. Inside ในปี พ.ศ. 2546 เพื่อรองรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากอัลบั้มแรก จากนั้นสมาชิกหลายคนในช่วงอัลบั้มแรกได้แยกย้ายกันไปศึกษาต่อกันในระดับอุดมศึกษา แต่สมาชิกที่ยังเหลืออยู่ 4 คน ได้แก่ โอม-ปัณฑพล ประสารราชกิจ (ร้องนำ) บู๊-วิศรุต เตชะวรงค์ (กลอง) หลง-วิทวัศ หลงชมบุญ (เบส) และ ธิป-ธิปรัชต์ โชติบุตร (กีตาร์) ได้ตัดสินใจรวมตัวกันเป็นวง โดยตั้งใจจะใช้ชื่อว่า Cocktail ต่อไป แต่แนวเพลงในอัลบั้มนี้ก็ยังไม่มีการกำหนดตายตัว

พวกเขาเริ่มต้นทำงานเพลงอัลบั้มที่ 2 ต่อไป โดยเริ่มแต่งเพลงในช่วงปลายปี พ.ศ. 2545 จนถึงกลางปี พ.ศ. 2547 และเริ่มบันทึกเสียงตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2547 ช่วงนั้น ธิป มือกีตาร์ ได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จึงต้องหามือกีตาร์คนใหม่ ซึ่งได้ เอ็กซ์-ปาริวัฒน์ สุวรรณชัย เข้ามาแทน และ ต่อมาก็ได้ เจ็ท-ปวีณ ปิ่นน้อย มือกีตาร์อีกคนเพิ่มเข้ามาจริงจัง
ต่อมา Cocktail ได้ออกจำหน่ายอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในชื่อ 36,000 Miles Away From Here ในปี พ.ศ. 2547 เป็นอัลบั้มที่แนวทางของวงเปลี่ยนแปลงมาเป็นร็อกอย่างเต็มตัว แต่เนื่องจากเพลงในอัลบั้มนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่ไม่มีการโปรโมตวงดนตรีเท่าที่ควร ทำให้คนรู้จักเพลงมากกว่าวง
ปี2549–2553 : อัลบั้ม อินเดอะเมโมรีออฟซัมเมอร์โรมานซ์ (In the Memory of Summer Romance)
อัลบั้มนี้ได้มีสมาชิกใหม่มาอีก 2 คน คือ อายุ จารุบูรณะ อดีตมือกลองจาก Saliva Bastard และ เชา-ชวรัตน์ หรรษคุณาฌัย พร้อมกับทำผลงาน EP. Final Light ในปี พ.ศ. 2550 และสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ ในชื่อ In the Memory of Summer Romance โดยได้ใช้เวลา ถึง 3 ปี

อัลบั้มชุดนี้ออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551 มีแนวเพลงที่แตกต่างจากร็อกในอัลบั้มชุดก่อนๆ เพิ่มความหนักแน่นขึ้นและใส่เสียงเครื่องสายเข้าไป ทำให้ดนตรีมีความเป็นคลาสสิกร็อกเพิ่มขึ้น ทำให้แต่ละเพลงมีรายละเอียดของดนตรีมากขึ้น มีเพลง “พันธนาการ” ที่เป็นดนตรีสังเคราะห์ที่ผสมผสานกับดนตรีร็อก นอกจากนี้อัลบั้มนี้ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสีสันอวอร์ด ประจำปี 2551 สาขาเพลงบรรเลงยอดเยี่ยมจากบทเพลง “ดาราดับแสง” เวอร์ชั่นบรรเลงอีกด้วย ต่อมา Cocktail จึงได้เซ็นสัญญา กับสังกัด genie records
ปี 2553-2555: อัลบัม Ten Thousand Tears
ในปี พ.ศ. 2553 Cocktail ได้ออก EP ในชื่อ วัย ในอัลบั้ม ประกอบด้วยเพลง “วัย” ในเวอร์ชั่นต่างๆ ซึ่งอัลบั้มนี้ผลิตจำกัด 1,000 แผ่นเท่านั้น วางจำหน่ายวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ทุกแผ่นหักเป็นค่าทำบุญหนังสือเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโพธ์ศรี จังหวัดสิงห์บุรี

ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 Cocktail ได้ออกสตูดิโออัลบั้มที่มีชื่อว่า Ten Thousand Tears ชื่อของอัลบัมมีที่มาจากชื่อเพลง “ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้งเพื่อมาเจอเธอ” และงานในอัลบั้มนี้ ถึงแม้ว่า Cocktail จะมีสมาชิกเพียง 3 คน แต่ได้มีนักดนตรีเข้าร่วมบันทึกเสียงด้วยถึงกว่า 40 ชีวิต เพื่อสร้างสีสันผสมผสานแนวดนตรีให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยทำการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีสดทุกชิ้น และเพลง “วัย” ก็ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย
ปี 2555-2558 : อัลบั้ม The Lords of Misery
ในอัลบั้มนี้เป็นการกลับมาของมือเบส คือ ปาร์ค-เกริกเกียรติ สว่างวงศ์ ส่วน อายุ จารุบูรณะ ได้ขอลาออกไปทำตามคำสัญญากับเพื่อนมัธยมที่จะสร้างวงดนตรีด้วยกัน จึงได้ ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ เข้ามาทำหน้าที่มือกลอง เปิดตัวด้วยเพลง “คุกเข่า” มีเพลง “โปรดเถิดรัก” เป็นเพลงแรกที่ได้ร่วมงานกับวงออเคสตราเต็มวง และเป็นเพลงที่ตัดออกมาจากประโยคเล็กๆ ใน เพลง “เธอทำให้ฉันเสียใจ” ในสตูดิโออัลบั้มชุดที่แล้วของวง และนำมาขยายความ และเป็นเพลงแรกที่ทำมิวสิกวิดีโอเป็นเนื้อเรื่อง และเพลง “เธอ” เป็นการกลับมากำกับมิวสิกวิดีโอครั้งแรกในรอบ 20 ปีของ นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการของค่าย โดยได้ภรรยาของโอมมาร่วมแต่งเพลงนี้อีกด้วย

ในปี พ.ศ. 2556 โอมได้ทำผลงานเพลง “ทางที่เลือก” ร่วมกับ ต้า Paradox และแอร์ The Mousses ต่อมา Cockatil ได้ Redefined ผลงานเพลง “ข้าน้อยสมควรตาย” ของ Big Ass ประกอบภาพยนตร์ ตีสาม คืนสาม 3D และ Cover เพลง “หนังสือรุ่น” ของ ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ ประกอบละครซีรีส์ เพื่อน เฮี้ยน..โรงเรียนหลอน ในปี พ.ศ. 2557 และได้ออก Single “คู่ ชีวิต” ในปี พ.ศ. 2558 และมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของค็อกเทล “เดอะฮาร์ตเลสไลฟ์” (The Heartless Live) ที่จีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮาส์ ในวันที่ 13 มิถุนายน
ปี 2559-2562 : อัลบั้ม COCKTAIL STUDIO ALBUM ลำดับที่ 6
ซิงเกิลโปรโมตเพลงแรกคือ เพลง “ช่างมัน” ซึ่งออกจำหน่ายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 และอัลบั้มชุดนี้ประกอบไปด้วย 11 บทเพลง ซึ่งก่อนหน้าการออกจำหน่ายได้มีเพลงที่ได้เผยแพร่ทางออนไลน์แล้ว 7 เพลง และเพลงที่เหลือได้ถูกเผยแพร่บนช่องทางออนไลน์หลังจากจำหน่ายอัลบั้มแล้วในเวลาต่อมา โดยอัลบั้มนี้ได้ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ซึ่งระหว่างนั้น ในปี 2561 ค็อกเทลได้จัดคอนเสิร์ต “Cocktail Live เล่นด้วยหัวใจเสมอมา” ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ปี 2564 : อัลบั้ม เฟท แอลฟา (Fate αlpha)
คอนเซ็ปต์เริ่มต้นจากชื่ออัลบั้ม FATE แปลว่า ‘ชะตา’ เนื่องจากเพลงและแนวคิดของวงมักพูดถึงการเดินทางของชีวิต ความคิด การได้พบเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด การเลือกเดินทาง การพลัดพราก และมักมีเรื่องของเวลาและความเปลี่ยนผัน อีกทั้งเพลงในอัลบั้มก็มีความหมายไปตามไพ่ Major Arcana 22 ใบ และเนื่องจากเพลงที่วางเอาไว้มีทั้งหมด 17 เพลง ทางค็อกเทลจึงให้มีไพ่ 4 ใบแทนสมาชิกของวง 4 คน และอีก 1 ใบแทนตัวเอง โดยอัลบั้มนี้มีเพลงฮิตอย่าง “ดึงดัน” และ “เรื่องธรรมดา”

ปี 2565-2566 : อัลบั้ม เฟท โอเมกา (Fate Ωmega)
ครึ่งหลังต่อจาก “เฟท แอลฟา” มีเพลง “ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร” เป็นเพลงเปิดตัว โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความไม่แน่นอนในทุกความสัมพันธ์ เพื่อนกันในวันนี้อาจกลายเป็นศัตรูในวันหน้า เฉกเช่นเดียวกับศัตรูในวันนี้ก็อาจกลายเป็นมิตรในวันหนึ่งวันใดก็ได้เช่นกัน อีกทั้งเพลงนี้ยังได้ร่วมงานกับ นาฬิกา OMEGA แบรนด์ดังระดับโลกที่มีชื่อเดียวกับพาร์ทนี้ของอัลบั้ม และได้จัดคอนเสิร์ต “Cocktail Classics A Symphony Orchestra” ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันที่ 4–6 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ปี 2567-2568 : อัลบั้ม Yours Ever
ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดสุดท้ายของ COCKTAIL พร้อมด้วยไลน์อัพสมาชิกวง 6 คนอย่างเป็นทางการ ได้แก่ โอม – ปัณฑพล ประสารราชกิจ(ร้องนำ), เชา – ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย(กีต้าร์), ปาร์ค – เกริกเกียรติ สว่างวงศ์(เบส), ฟิลิปส์ – ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ (กลอง),เหน่ง – วิวัฒน์ สว่างวรรณรัตน์ (กีร์ต้า) และ เอ็กซ์ – ชรัณ ตัณฑนันทน์(คีย์บอร์ด) ที่จะมาส่งท้ายด้วย 11 เพลง สามารถฟังทุกเพลงได้แล้วที่ Streaming ทุกแพลตฟอร์ม

ร่วมจารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอย่างเป็นทางการของวง “COCKTAIL” (ค็อกเทล) กับคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบ “ไทยประกันชีวิต presents COCKTAIL EVER LIVE” ณ ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 30 และ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568

และหากใครที่พลาดกดบัตรไม่ทัน ไม่ต้องเสียใจ เพราะพวกเขา จะมี COCKTAIL 77 EVER TOUR ที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ 26 เมษายน – 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ใครใกล้ที่ไหน ไปที่นั่นได้เลย


ขอบคุณภาพและข้อมูล FB COCKTAIL