ภัยร้ายที่ไม่คาดคิด อันตรายที่ซ่อนอยู่ในบ้าน

บ้านเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งนำพาความรู้สึกปลอดภัยมาสู่ทุกคน แต่บางครั้งสถานที่คุ้นเคยที่ตลบอบอวลไปด้วยความอบอุ่นสบายใจนี้ กลับมีความอันตรายแอบซ่อนอยู่ หากเราประมาทเพียงเล็กน้อยก็อาจเจ็บตัวหรือถึงขั้นเป็นภัยต่อชีวิตได้เลย

1. งูในชักโครก เรื่องที่ดูเหลือเชื่อแต่เกิดขึ้นจริง

ฟังดูเหมือนเรื่องเล่าชวนขนหัวลุกที่กุขึ้นมาหลอกให้เรากลัวการเข้าห้องน้ำยามดึกในอินเทอร์เน็ต แต่ความจริงแล้วเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้และเคยเกิดขึ้นจริงด้วย โดยงูมักมองหาที่เย็นและชื้นสำหรับหลบซ่อน ระบบท่อน้ำทิ้งจึงกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกของพวกมัน เนื่องจากพวกมันสามารถเลื้อยขึ้นมาตามท่อจนมาโผล่ในชักโครกภายในห้องน้ำ

เราจึงควรป้องกันด้วยการติดตั้งตะแกรงกันงูหรือแผ่นกรองพลาสติกที่ท่อระบายน้ำ ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่เจองูบ่อยควรตรวจดูทุกครั้งก่อนนั่ง โดยเฉพาะตอนกลางคืน และควรปิดฝาชักโครกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน ป้องกันไม่ให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วงูจะเลื้อยต่อไปยังบริเวณอื่นในบ้าน 

ทั้งนี้ หากเจองูในห้องน้ำ อย่าตกใจ ค่อยๆ ถอยออกมา ปิดประตู แล้วเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยจัดการ

2. อันตรายจากการผสมน้ำยาทำความสะอาด

หลายคนอาจคิดว่าการผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหลายชนิดเข้าด้วยกันจะช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นหรือสะอาดกว่าเดิม แต่ความจริงแล้ว มันอาจก่อให้เกิดสารพิษได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการผสม น้ำยาฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์ เข้ากับน้ำยาล้างห้องน้ำหรือน้ำส้มสายชู ที่เมื่อคลอรีนในน้ำยาฟอกขาวเจอกับกรด จะเกิดเป็น “ก๊าซคลอรีน” ซึ่งเป็น สารพิษ ที่ส่งผลให้เกิดอาการไอ หายใจติดขัด แสบตาและคอ เจ็บหน้าอก และในกรณีรุนแรง อาจถึงขั้นเป็นอันตรายต่อปอดหรือชีวิตได้

ดังนั้น อย่าผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเข้าด้วยกันเด็ดขาด ถ้าต้องใช้หลายตัว ให้ใช้ทีละชนิด ทำการล้างด้วยน้ำให้สะอาดก่อน แล้วค่อยใช้ตัวต่อไป หรืออาจเลือกใช้ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยการใช้ของจากธรรมชาติอย่าง เบกกิ้งโซดา สบู่อ่อน หรือ น้ำส้มสายชู และอย่าลืมเปิดหน้าต่างหรือเปิดพัดลมระบายอากาศทุกครั้งเวลาทำความสะอาดพื้นที่ปิด

3. อันตรายจากไฟฟ้าในพื้นที่เปียก

ห้องน้ำและห้องครัวมักเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าบ่อยที่สุด การใช้ไดร์เป่าผม เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า หรือปลั๊กพ่วงใกล้อ่างน้ำที่แยกพื้นที่เปียกแห้งอาจดูเหมือนไม่เป็นไร แต่แค่หยดน้ำเล็กๆ ก็อาจทำให้เกิดไฟช็อตหรือไฟไหม้ได้

เราจึงควรเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ห่างจากแหล่งน้ำ ใช้ปลั๊กที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ และถอดปลั๊กทันทีหลังใช้งานทุกครั้ง อย่างไรก็ดี ต่อให้ใช้อุปกรณ์ที่มีระบบความปลอดภัยสูงก็ไม่ได้การันตีได้ว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด หากเป็นไปได้จึงควรหลีกเลี่ยงการมีปลั๊กไฟและใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบริเวณที่ใกล้หรือมีน้ำ

4. เพลิงไหม้ใกล้ตัว

บางครั้งไฟไหม้ในบ้านเกิดจากเรื่องเล็กๆ ที่เรามองข้าม หรือการกระทำที่มาจากความเคยชิน เช่น เสียบของหลายชิ้นเกินไปกับปลั๊กพ่วง เสียบสายและหัวชาร์จโทรศัพท์ปล่อยทิ้งไว้ หรือจุดเทียนหอมวางใกล้ผ้าม่านหรือเตียงนอน 

เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้แนะนำว่าควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ทุกครั้ง วางเทียนห่างจากของติดไฟง่าย ไปจนถึงตรวจสอบเตาทำอาหารและปิดถังแก๊สทุกครั้งก่อนออกจากบ้านหรือก่อนนอน

เพียงแค่สังเกต ตรวจสอบเล็กน้อยก่อนทำความสะอาด ถอดปลั๊กหลังใช้งาน หรือปิดฝาชักโครกเมื่อไม่ใช้ก็ช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยขึ้นมากแล้ว การวางแผนป้องกันและระมัดระวังจนเป็นนิสัยจะทำให้บ้านของเราเป็นพื้นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง

Related posts

Leave the first comment