ปอกเปลือกชีวิต “ธัญญ่า อาร์สยาม” จากเด็กสาวธรรมดา สู่ดาวแห่งวงการลูกทุ่ง

ถ้าพูดถึงนักร้องลูกทุ่งอาร์สยาม แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของ ธัญญ่า อาร์สยาม หรือ ชัชชญา ทวินันท์ อยู่ในนั้นด้วยแน่นอน และถึงปัจจุบันนี้ ธัญญ่า เธอจะออกมาเป็นนักร้องอิสระ

เมื่อไม่นานมานี้ ธัญญ่า ได้ปล่อยเพลง บักล่าครับ ทำให้เธอกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งในฐานะนักร้องอิสระ

โดย ธัญญ่า เล่าถึงชีวิตการเป็นนักร้องของเธอว่า “เข้าวงการมา 10 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนอายุ 18 ตอนนี้อายุ 28 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลา 10 ปีมันก็มีขึ้นลง ช่วงเริ่มต้น เข้ามาได้เล่นเอ็มวีเพลงคู่กับพี่เบิ้ล ปทุมราช เลยทำให้คนรู้จักเราไว้มาก และเราก็ยังได้ร้องเพลงแก้กับพี่เบิ้ลอีก ทำเป็นซีรี่ส์

จนคนรู้จักเรามากขึ้น ช่วง 2-3 ปี แรกมันก็ดีค่ะ จนถึงเพลง “ปล่อยไปตายโลก” เป็นซิงเกิลสุดท้ายที่ทำให้คนรู้จักเพลงของเรา บางคนก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าหนูเป็นนักร้อง

ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปี 2568 คือเส้นทางที่ตะกุกตะกักที่สุด ระยะเวลา 7 ปีนั้น เราทำเพลงมาเรื่อยๆ แต่ทำยังไงมันก็ไม่ดังสักที ไม่เคยท้อเลย แต่มาเริ่มท้อตอนปี 2563 คือเราตั้งใจทำเพลงเร็ว “บ่หัวซาสิหาใหม่” แต่มันไม่ประสบความสำเร็จตอนนั้นเราตั้งใจมาก ตั้งใจซ้อมเต้นและมั่นใจมากว่าเพลงนี้ต้องมา

คนรอบข้างก็มั่นใจหมดว่าเพลงนี้ต้องมาแน่ๆ พอปล่อยออกมาแล้วเจอโควิด บวกกับอีกหลายๆ อย่างเพลงมันเงียบไปเลยเงียบกริบ ยอดวิวก็ไม่ไป เราเหมือนคนอกหักจากการทำเพลง จากนั้นรู้สึกว่าฉันไม่อยากทำเพลงแล้ว มันทุกข์มากกลัวการมีซิงเกิล ไม่อยากทำเลย

พักไป 2 ปี พอปี 2565 ได้กลับมาทำอีกครั้ง แต่ตอนนั้นบอกตัวเองว่าเราจะไม่คาดหวังจะทำเพราะความสุข ตอนที่เราเริ่มร้องเพลง มันคือความสุข เราทำเพลงเพราะความสุขนะ ดังไม่ดังช่างหัวมัน ก็มาทำซิงเกิลออกมา

ตอนนั้นทำซิงเกิลทั้งที่ท้อง เราก็ไม่สามารถเต้นได้เต็มที่หรืออาจะเป็นเพราะว่าเพลงที่ไม่ได้เข้ากับเรา ออกมาก็เหมือนเดิม ตอนนั้นร้องหมอลำครั้งแรกเพลง ฮักปลง

ซึ่งมันก็ยังไม่มาอีก ตรงนี้มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าการทำเพลงของเราอาจจะได้ประมาณนี้ การออกเพลงให้เราได้มีชื่อเสียง อาจจะส่งเรามาถึงแค่ให้คนรู้จักหน้าเรา แค่ให้คนรู้จักชื่อเรา อาจจะไม่ได้ให้คนมาฟังเพลงเราแล้ว คงได้ประมาณนี้แหละ

เลยเปลี่ยนเส้นทางมาในเส้นทางของการขายของขายออนไลน์ เพราะเราเริ่มเห็นช่องทางเพราะว่าเจอกับ อาโล่(แฟนคนปัจจุบัน) เราเห็นว่าการไลฟ์ขายของมันได้เงินเยอะ จากที่เราไม่ชอบขายของเลย ก็เลยเบนเข็มมาทางธุรกิจเป็นหลัก

ถึงเส้นทางการเป็นนักร้องมันไม่ได้เรียบง่ายเลย ผิดหวังเยอะ กับการออกซิงเกิล แต่เราไม่เคยน้อยใจ รู้สึกว่าจังหวะชีวิตคนเรามันมี อย่างที่บอกเราเคยอกหักกับการทำเพลง หมดแพชชั่นการออกซิงเกิลไปแล้ว แต่พอเราได้เพลงที่ดี จังหวะที่ดี อย่างเพลง “บักล่าครับ” เพลงนี้ใช้เวลาไม่นานในการทำ แต่กระแสก็กลับมาเร็วมาก”

ในฐานะนักร้องคนก็รู้จักประมาณหนึ่ง แต่คนอีกจำนวนไม่น้อยรู้จัก ธัญญ่า อาร์สยาม เพราะข่าวดราม่า ?

“เจอดราม่าตั้งแต่เล่นเอ็มวีกับพี่เบิ้ล เพลง “อ้ายมีเหตุผล” โดนติว่าเป็นนางเอกที่ไม่สมกับพระเอกเลย อ้วนดำ ตอนนี้หนูก็พัฒนาตัวเองมาไกลมาก โดนดราม่าเรื่อยๆ เพราะว่าตอนนั้นเป็นคู่จิ้นกับพี่เบิ้ล เรามีเอฟซีบ้านคู่ แต่พี่เบิ้ลเขาก็มีเอฟซีบ้านเดียว

เอฟซีของพี่เบิ้ลเขาก็หวงพี่เบิ้ลมากไม่อยากให้จิ้นกับเรา ทำให้เอฟซีบ้านคู่กับเอฟซีพี่เบิ้ลตีกัน เรื่องนั้นมันก็ผ่านมาได้ แต่ตอนนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่นะ เป็นเรื่องที่ปวดหัวเอฟซีตีกัน ความคิดเห็นไม่ตรงกันเป็นบ่อยมากๆ จนทำเรามีวิถีในการสร้างภูมิต้านทานเรื่องของความรู้สึก”

เรื่องความรัก ก็ดราม่าไม่แพ้กัน?

“ตั้งแต่คบหาดูใจกับพี่เบิ้ล เป็นแค่ช่วงเดือน สองเดือนแรก เหมือนป๊อปปี้เลิฟ แต่พักเดียว เหมือนว่ามันเป็นช่วงที่ว่าเราจะไปด้วยกันต่อไหมหรือว่าพอแค่นี้ดี ตอนนั้นทะเลาะกันบ่อยมาก ความคิดเห็นไม่ตรงกันเลย ทีมงานปวดหัวกับพวกเราทั้งคู่มาก

หลังเวทีตีกันฉ่ำ ทะเลาะกันจนร้องไห้ ปาดน้ำตาขึ้นเวทีก็มีมาแล้ว แต่ตอนนั้นเรายังมีงานคู่กันอยู่ พอขึ้นเวทีก็รักกัน (หัวเราะ) จนเราตัดสินใจว่าสถานะเราควรจะไปทางไหน แต่ตอนนี้เราเป็นพี่น้องที่รักกันนะเราผ่านช่วงเวลานั้นมาด้วยกันทุกวันนี้เรามีแต่ความห่วงใยให้กัน”

ความรักครั้งต่อมาเปิดตัวอย่างปัง แต่พอเลิกกันดราม่าฉ่ำ?

“เวลาเรารักเรารักมาก แต่พอมันก็มีเหตุการณ์นู่นนี่นั่นขึ้นมา ทำเราตัดเลย ไม่ให้เวลาตัวเองได้เสียใจนาน คิดว่าเราจะไปเจอคนอีกเยอะ ณ ตอนนั้นเรารักและคาดหวังว่าอยากแต่งงาน แต่สุดท้ายแล้วพอไม่ได้ แล้วเราไม่ได้ทำอะไรผิด มันก็ค่อนข้างที่จะมีความมั่นใจในตัวเอง 

คนก็ให้กำลังใจเราเยอะ ทำให้เรารู้สึกมีค่ามากๆ อยากทำให้เราสวยขึ้นอีก เพื่อพัฒนาตัวเอง แป๊บเดียวก็มีใหม่ เรื่องนี้ในตอนนั้นเป็นดราม่าที่หนักแต่ก็ถือว่าคนก็รู้จักเราจากดราม่านี้เยอะมากๆ แต่เราก็ไม่ได้อยากเติบโตจากการเป็นข่าวดราม่านะ”

เริ่มต้นรักใหม่ได้ 7 เดือน ตัดสินใจจดทะเบียนสมรส?

“เริ่มต้นชีวิตรักใหม่ไวมาก ตัวเองก็ยังงงเลยไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไปเจออาโล่ที่ลาวคุยกันมาเรื่อยๆ เขารู้สึกว่าเรากับเขาอยู่ไกลกัน คงเป็นไปไม่ได้ แต่เรารู้สึกว่ายากดีเลยจีบเขาอยู่ เขาก็บินมาหาเราที่ไทยเลยมีการคุยกันเราคุยกัน ประมาณหนึ่งเดือน ตัดสินใจคบกัน

คุยกันเรื่องสร้างครอบครัว อยากมีลูกด้วยกัน เราทั้งคู่เลยตัดสินใจไปจดทะเบียนสมรส ตอนนั้นคบกันแค่ 7 เดือน ตอนนั้นไปจดก็ไม่ได้บอกใครด้วย จนถึงวันนี้เป็นเวลาสองปีกว่า

คำว่าเป็นแฟนกับสามีหรือคู่ชีวิตมันไม่เหมือนกัน พอเป็นชีวิตคู่มันจะมีเรื่องต่างๆ นานาเข้ามาเยอะมาก มันต้องตัดสินใจร่วมกันทั้งหมด เมื่อก่อนเราเคยตัดสินใจคนเดียว เป็นคนที่ไม่มีแพลนในชีวิต พอมีเขาเข้ามาเราต้องปรึกษากัน

แต่พอความคิดไม่ตรงกันเราก็รู้สึกว่าทำไมเขาต้องมาบงการชีวิตเราด้วย ช่วงที่คลอดลูกใหม่ๆ เราก็ทะเลาะกันบ่อยเคยถึงกันที่ว่าจะเลิกกันวางแผนว่าจะทำยังไงต่อแต่สุดท้ายแล้วมันปล่อยมือกันไม่ได้เรามีลูกเพราะเราไปก็รู้สึกว่าเรายังรักกันอยู่ เราต้องคอยบอกตัวคุณเองว่าเราไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ ต้องเคารพการตัดสินใจของกันและกัน แล้วก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน”

ขอบคุณรูปจาก : IG @tanya_rsiam

Related posts

Leave the first comment