หลายคนมักเข้าใจผิดว่าอาการปวดหลังและปวดคอเป็นเพียงออฟฟิศซินโดรม ทั้งนี้ควรระวังให้ดีเพราะอาการปวดหลังเรื้อรังเป็นเวลาหลายเดือนโดยที่ไม่ดีขึ้น อาจเป็นสัญญาณของ “โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด“

โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด (Ankylosing Spondylitis) คือ ภาวะข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้กระดูกเล็กๆ ในกระดูกสันหลังยึดติดกัน ทำให้สูญเสียความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลัง และเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการหลังค่อม ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคอย่างแน่ชัด จึงยังไม่มีวิธีใดรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้
อาการบ่งบอกโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบจากการยึดติด
- ปวดหลังส่วนล่างและสะโพกต่อเนื่อง : ผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแตกต่างกันไปตามความรุนแรง ส่วนมากสัญญาณเริ่มต้นมักเป็นอาการปวดหลังส่วนล่างและสะโพก ร่วมกับอาการหลังตึงหรือรู้สึกยึดติดในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาจเกิดต่อเนื่อง 3 เดือนขึ้นไป โดยผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดหรือมีอาการข้อติดบริเวณอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หลัง ก้น ข้อต่อไหล่ ข้อต่อระหว่างฐานกระดูกสันหลังกับกระดูกเชิงกราน

- ปวดหลังหรือหลังตึงขัดมากในช่วงกลางคืน ขณะหลับและหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือหลังหยุดเคลื่อนไหวมานาน
- ปวดสะโพก และมีปัญหาเกี่ยวกับการเดิน
- ปวดส้นเท้าและฝ่าเท้า

- งอตัว ก้มตัว หรือโน้มตัวลำบาก

- อาการอื่นๆ เช่น เหนื่อยง่าย ตาแดง ปวดตา แผลที่ปาก ผื่นผิวหนัง เบื่ออาหาร ฯลฯ

สัญญาณเตือนควรรีบพบแพทย์
หากมีอาการปวดหลังช่วงล่างมากขึ้น ปวดหลังนานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน รู้สึกข้อติดแข็ง ปวดหลังมากหลังจากตื่นนอนตอนเช้า เริ่มหายใจติดขัด ตาบวม แดง และปวด มองเห็นไม่ชัด ตาไวต่อแสงอย่างรุนแรง หรือตาพร่ามัว ควรรีบพบแพทย์ทันที

การป้องกันเบื้องต้น
แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันโรคนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ผู้ป่วยสามารถป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง หรือเกิดอาการรุนแรงได้โดยการไม่สูบบุหรี่ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ เลี่ยงการนอนหนุนหมอนสูง เลี่ยงท่าทำงานก้มตัวตลอดเวลา ปรับท่าทางการเดิน นั่งในท่าตรง เป็นต้น