ความเสี่ยงที่มาพร้อม “ภาวะน้ำหนักเกิน” ชี้ต้นเหตุและวิธีป้องกันง่ายๆ

ในยุคที่เต็มไปด้วยอาหารแปรรูปที่มีแคลอรีสูงและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ทำให้เราเคลื่อนไหวน้อยลง การมีน้ำหนักเกินจึงกลายเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักเล็กน้อยในช่วงเวลาหนึ่งอาจดูไม่เป็นปัญหา แต่หากปล่อยไว้นานก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างคาดไม่ถึง

ความเสี่ยงทางร่างกาย

น้ำหนักเกินไม่ใช่แค่ตัวเลขบนตาชั่ง แต่เป็นภาระที่ร่างกายต้องแบกรับ ซึ่งอาจส่งผลต่อทั้งหัวใจ ระบบเผาผลาญ ไปจนถึงข้อต่อต่างๆ โดยอาการที่มักพบได้บ่อย ได้แก่ โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ปัญหาข้อต่อเนื่องจากน้ำหนักที่มากกดทับเข่า สะโพก และกระดูกสันหลัง จนอาจเกิดอาการปวดหรือข้อเสื่อม และ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ทำให้หลับไม่สนิทและรู้สึกอ่อนเพลียในตอนเช้า

ผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์

นอกจากนี้ น้ำหนักเกินไม่เพียงสร้างผลกระทบทางร่างกาย แต่ยังส่งผลไปยังสุขภาพจิตและอารมณ์ด้วย เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความไม่มั่นใจและกังวลเรื่องรูปร่าง เพราะแรงกดดันจากมาตรฐานความงามของสังคม ที่ต่อมาอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ และเมื่อร่างกายเหนื่อยหอบง่ายก็ทำให้ไม่มีแรงใช้ชีวิตทำกิจวัตรประจำวัน

พฤติกรรมที่ทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกิน

โดยส่วนใหญ่ น้ำหนักเกินไม่ได้เกิดจากสาเหตุหลักอันใดอันหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่มาจากพฤติกรรมเล็กๆ ในชีวิตประจำวันที่สะสมมาเรื่อยๆ ในระยะยาว ทั้งปัญหาโภชนาการไม่สมดุลจากอาหารแคลอรีสูงแต่สารอาหารน้อยสวนทางกัน การขาดการเคลื่อนไหว ใช้เวลาทำงานอยู่หน้าจอ นั่งอยู่ค่อนวัน ส่งผลให้เผาผลาญแคลอรีได้น้อยในแต่ละวัน และที่หลายคนคาดไม่ถึงคือ การนอนน้อย พักผ่อนไม่พอ รวมถึงความเครียด ที่รบกวนฮอร์โมนความหิว เพิ่มความอยากอาหารและการสะสมไขมัน

วิธีดูแลและป้องกันแบบง่ายๆ

เช่นเดียวกันกับสาเหตุที่มาจากการประกอบรวมกันของพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ วิธีป้องกันแก้ไขก็สามารถทำได้ผ่านพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นเช่นกัน ขอเพียงทำอย่างสม่ำเสมอก็สามารถสร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ ง่ายๆ แค่ขยับร่างกายเป็นประจำทุกวัน จะเดินเบาๆ ยืดเหยียด หรือปั่นจักรยานวันละนิดก็ได้ ร่วมกับการกินอาหารอย่างมีสติ เน้นสารอาหารที่ครบถ้วนดีต่อสุขภาพในปริมาณที่เหมาะสม นอนหลับให้เพียงพอ 7–9 ชั่วโมงต่อวันช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น และจัดการความเครียด โดยอาจนั่งสมาธิ เขียนบันทึก หรือทำสิ่งที่ชอบช่วยให้ใจผ่อนคลายได้

ทั้งนี้ การรักษาน้ำหนักให้เหมาะสมไม่ได้เป็นเพียงเรื่องรูปร่างหรือความสวยงาม แต่เป็นการปกป้องดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจ และความเป็นอยู่ในระยะยาว ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยการกินอย่างมีสติ เคลื่อนไหวเป็นประจำ และดูแลใจให้สงบ เท่านี้คุณก็สามารถมีสุขภาพที่ดีและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้แล้ว

Related posts

Leave the first comment